NEW STEP BY STEP MAP FOR อาหารเสริมและวิตามิน

New Step by Step Map For อาหารเสริมและวิตามิน

New Step by Step Map For อาหารเสริมและวิตามิน

Blog Article

ที่สำคัญคือแคลเซียม อะมิโน คีเลต ที่ช่วยดูดซึมเร็วกว่าแคลเซียมทั่วไป จึงช่วยให้ผู้สูงอายุที่มีปัญหา สายตา กระดูกได้ดี และช่วยบำรุงกระดูก ป้องกันกระดูกพรุน ปวดเข่า เก๊าท์

ร่างกายของเรามีข้อกำหนดและขีดจำกัดอยู่หลายประการ การจะกินวิตามินหรืออาหารเสริมให้เห็นผล จึงควรปรึกษาแพทย์ และเข้ารับการตรวจร่างกายหาปริมาณวิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ก่อน เพื่อเลือกกินแต่วิตามิน หรือ อาหารเสริมแร่ธาตุ ที่ร่างกายของเราขาดไป หรือได้รับไม่เพียงพอเท่านั้น เพราะอาหารเสริม/วิตามินบางอย่าง ถ้าได้รับมากเกินความจำเป็น ร่างกายก็จะกำจัดออก หรือถ้ากำจัดออกไม่หมด ก็จะตกค้างอยู่ในร่างกาย นอกจากจะไม่ได้ประโยชน์และยังให้โทษ ทั้งยังทำให้เสียเงินโดยใช่เหตุอีกด้วย

หากเราต้องการจะกินวิตามิน แนะนำว่าให้ตรวจหาระดับวิตามินในร่างกายเสียก่อน

ข้อเสีย : ราคาแพง มีความยุ่งยากในการเตรียมเพื่อรับประทานเพราะต้องนำไปละลายกับน้ำก่อน และหลาย ๆ ยี่ห้อมักใส่น้ำตาลเข้าไปในปริมาณมากเพื่อให้ความหวาน (สำหรับแบบเม็ดฟู่ะละลายน้ำ เมื่อเม็ดยาสัมผัสกับน้ำจะทำให้เกิดเป็นฟองฟู่ ก่อนรับประทานจึงควรรอให้ฟองหมดก่อน เนื่องจากถ้าทานฟองแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นเข้าไปก็อาจทำให้เกิดอาการท้องอืดแน่นท้องได้)

ขึ้นไป กรดแอสคอร์บิกอาจทำให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะและทำให้เกิดอาการท้องร่วงได้ในคนปกติ

คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

‘วิตามิน’ กับ ‘อาหารเสริม’ ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร?

>> น้ำมันตับปลา ตับสัตว์ นม ไข่ ผักผลไม้ที่มีสีเขียว ส้มหรือเหลือง เช่น ผักบุ้ง ตำลึง พริกหวาน ฟักทอง แครอท มะละกอสุก มะม่วงสุก เป็นต้น

วัยทำงานควรรับประทานวิตามินประเภทไหน?

วิตามินที่ละลายในน้ำ ได้แก่ วิตามิน B และ C สามารถคงอยู่ได้ในร่างกายเป็นระยะเวลาสั้นๆ ส่วนที่เหลือจากการใช้งาน จะถูกขับออกทางไตมากับปัสสาวะ

>> ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยในการสังเคราะห์คอลาเจนและฮอร์โมนอื่นๆ รวมถึงช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก

ช่วยควบคุมการดูดซึมแคลเซียม และฟอสฟอรัสเข้าสู่ร่างกาย ส่งเสริมการสร้างกระดูก และฟัน ป้องกันโรคกระดูกพรุน และโรคกระดูกบาง 

วิตามินหรืออาหารเสริม บางอย่างแม้จะมีประโยชน์กับคนทั่วไป แต่อาจเป็นอันตรายกับคนที่มีโรคประจำตัว อาหารเสริมและวิตามิน เช่น วิตามินซี ที่มีผลกระทบ ทำให้เลือดแข็งตัวช้าขึ้น ทั้งยังเร่งให้เม็ดเลือดแดงแตกได้ง่าย จึงเป็นอันตรายกับผู้ป่วยในกลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับเม็ดเลือดแดง หรือวิตามินเอ ที่ดูดซึมยาก คั่งค้างและสะสมในตับได้ง่าย จึงไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคไต เป็นต้น   

วิตามินและอาหารเสริมทำให้ตับทำงานหนักขึ้น

Report this page